วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

เป็นเจ้านายให้ลูกน้องนับถือ



เรื่องของเจ้านายและลูกน้องถือว่าเป็นสิ่งที่มีควบคู่กันมาอย่างช้านานตั้งแต่อดีต ที่ไหนมีลูกน้องที่นั่นต้องมีโต๊ะทำงานของเจ้านายอยู่วันยันค่ำ แต่ด้วยเพราะระบบการทำงานระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเป็นเรื่องของสายการบังคับบัญชาที่ส่วนหนึ่งคาบเกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก และการเคารพนับถือระหว่างกันจากทั้ง 2 ฝ่าย การวางตัวจากทางผู้ประกอบการหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเจ้านายจึงเป็นสิ่งสำคัญมากและเทียบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดตั้งตนของความสัมพันธ์ในหน้าที่ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเลยทีเดียว ดังนั้นบรรยากาศในที่ทำงานจะดีได้ต้องเริ่มที่ผู้ประกอบการจะต้องประพฤติตนให้เป็นเจ้านายที่น่านับถือเสียก่อน

ข้อนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในระบบสายการบังคับบัญชา เพราะสายการบังคับบัญชาจะไม่ได้ผลและล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงหากผู้ที่เป็นเจ้านายซึ่งถือว่าเป็นส่วนหัวสูงสุดของแผนกหรือบริษัทมีศักยภาพต่ำกว่าลูกน้อง ซึ่งจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในตัวของผู้เป็นเจ้านายโดยทันทีเนื่องจากไม่มีประโยชน์อะไรที่จะยกคนโง่มาให้ขึ้นเป็นนายของตนเอง ผู้ประกอบการหรือเจ้านายจึงควรต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เข้าใส่ตนเองเอาไว้ให้มากๆ แต่ความฉลาดที่ว่านี้ไม่ได้นับกันที่ปริญญาหรือเกรดที่สูงๆเสมอไป ขอเพียงให้ท่านมีความรู้ในสิ่งที่ทำและรับผิดชอบให้มากที่สุดในสายงานนั้นของบริษัทก็พอ ความน่าเคารพและนับถือก็จะตามมาเอง

ประสบการณ์เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นที่เหล่าบรรดาผู้ประกอบการและเจ้านายต้องมี เพราะการสั่งสมประสบการณ์ในเรื่องของการทำงานจะเปรียบเสมือนเป็นยศในทางการบริหารที่จะสร้างความน่าเชื่อถือและเคารพให้เกิดขึ้นในสายตาของลูกน้อง และที่สำคัญคือประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะเกิดประโยชน์มากที่สุดหากสามารถนำมันมาใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานได้จริง นอกจากนี้ประสบการณ์ยังช่วยสอนให้ว่าจะต้องดำเนินงานอย่างไรในการทำธุรกิจอีกด้วย

ความเป็นผู้นำคือหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่เจ้านายทุกคนจะต้องมี เพราะความศรัทธาที่จะแปรเปลี่ยนเป็นความนับถือในท้ายที่สุดนั้นล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากการได้สัมผัสและมองเห็นถึงบุคคลิกความเป็นผู้นำของผู้ประกอบการทั้งสิ้น ทั้งในส่วนของวิสัยทัศน์ ความกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก รวมไปถึงความรับผิดชอบด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เจ้านายเป็นจำนวนมากสามารถควบคุมลูกน้องให้อยู่ในกรอบที่ตัวเองกำหนดได้อันมีที่มาจากความเป็นผู้นำที่แฝงไว้อยู่ในบุคลิกส่วนตัวนั่นเอง

การทำงานที่ยากและมากกว่าลูกน้องถือเป็นวิธีการวัดระดับความสามารถอย่างแท้จริงว่าท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถที่เหนือกว่าและสมควรจะได้ความนับถือจากลูกน้อง ซึ่งความสามารถในขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของความรู้ผสมกับประสบการณ์ของการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จึงไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถถ่ายทอดถึงกันได้โดยง่าย โดยคุณสมบัติในข้อนี้จะเป็นการช่วยยกระดับความสามารถให้เหนือกว่าพนักงานทั่วไปหลายเท่าตัว

ไม่มีใครที่จะสามารถทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จและเป็นงานได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก ดังนั้นเรื่องของการถ่ายทอดวิชาความรู้และแนะนำเทคนิคการทำงานจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรจะต้องส่งผ่านในเรื่องนี้ไปให้กับลูกน้องด้วย เพราะนอกจากพนักงานจะมีความรู้มากขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัทโดยรวมแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์อันเกิดจากความช่วยเหลือและยังช่วยทำให้ลูกน้องตระหนักรู้ด้วยว่าใครคือผู้มีบุญคุณต่อการทำงานของเขาอย่างแท้จริง

ผู้ประกอบการควรที่จะต้องกำหนดกรอบให้กับตัวเองว่าสิ่งไหนคือเรื่องที่สามารถเข้าไปให้คำแนะนำและชี้แนะได้ หรืออะไรคือเรื่องส่วนตัวของลูกน้องที่ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นอันขาด ซึ่งการกำหนดกรอบในข้อนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางตัวได้ถูกต้องและไม่เป็นการไปก้าวยุ่งเรื่องส่วนตัวของลูกน้องมากจนเกินไปนัก

มนุษย์สัมพันธ์และการใช้จิตวิทยาในการพูดคุยเป็นอีกหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยสร้างความนับถือให้เกิดขึ้นในจิตใจการรับรู้ของลูกน้องได้ดีมากและเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดด้วย ซึ่งการพูดคุยในลักษณะของการสร้างมิตรภาพและการชมเชยแม้เพียงเล็กน้อยของงานที่ทำสำเร็จ ถือได้ว่าเป็นการปลูกดอกไม้ในหัวใจของลูกน้องเลยก็ว่าได้ซึ่งมันจะเจริญเติบโตและกลายสภาพเป็นความนับถือที่มีต่อตัวผู้ประกอบการ อันมีที่มาจากเมล็ดพันธุ์ที่ท่านได้ว่านและหมั่นเติมน้ำใจไมตรีให้แก่กันตลอดมา

การที่ผู้ประกอบการจะเป็นเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาที่น่าเคารพนับถือในสายตาลูกน้องได้นั้น การมีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างในเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี โดยผู้สนับสนุนในที่นี้อาจจะเป็นผู้ถือหุ้นหรือพนักงานแม้กระทั่งลูกค้าก็เป็นได้ ซึ่งคะแนนเสียงเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีพลังอำนาจในการบริหารมากขึ้นและเป็นที่เคารพยำเกรงของลูกน้องทุกๆคน โดยผู้สนับสนุนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ประกอบการสามารถนำวิธีการต่างๆก่อนหน้านี้มาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้อย่างเห็นผล
การทำตนให้เป็นเจ้านายที่น่านับถือในสายตาลูกน้องนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ หรือสามารถสร้างขึ้นมาให้เกิดขึ้นได้โดยทันที แต่เป็นเรื่องของการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่จะต้องดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและใช้ระยะเวลา โดยความนับถือในระบบการทำงานและสายการบังคับบัญชาจะเกิดขึ้นได้ต้องมีจุดเริ่มที่ผู้ประกอบการซึ่งเป็นเจ้านายก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการริเริ่มที่จะเป็นผู้ให้ เพราะท้ายที่สุดพระเดชจะเกิดขึ้นได้ต้องมีพระคุณเป็นตัวสนับสนุนควบคู่กันอยู่เสมอ

thx:http://incquity.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

make-money-468x60