วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

รักแล้วอย่าวางใจ เผื่อเจ็บไว้บ้างก็ดี

หลังจากกลับบ้านก็ได้พูดคุยกับแม่ตามภาษาแม่ลูกกันปกติ สักครู่ก็มีพี่ข้างบ้านแบ่งกับข้าวมาให้ที่บ้าน

แล้วก็พูดคุยกันสักพัก จนไปถึง "เรื่องเศร้าเรื่องหนึ่งที่ฉันฟังแล้วไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย มันเศร้าเกินกว่าจะทำใจ"

เรื่องมีอยู่ว่า  >>>>> มีครอบครัวหนึ่ง มีปู่ย่า ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชายสองคน (ลูกของลูกชาย+ลูกสะใภ้)

ครอบครัวนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับฉัน เป็นบ้านทาวน์เฮ้าสองชั้นหรือสามชั้นจำไม่ได้ ห่างกันประมาณร้อยเมตรเท่านั้น

คุณปู่เป็นทหารยศใหญ่เหมือนกัน ส่วนคุณย่าเป็นแม่บ้านรับจ้างซักผ้า ลูกชายเป็นบุรุษพยาบาล และลูกสะใภ้เป็นพยาบาล

ประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง (บ้านเกิดฉันเอง)


ฉันขอตั้งชื่อให้กับลูกชายว่า >>> เบล ฉันเรียกเค้าว่าพี่เบล

และก็ลูกสะใภ้ว่า >>> นิด แต่ฉันขอเรียกว่าพี่นิดแล้วกันติดปากมาแต่เด็ก

สองคนนี้ดูจากภายนอกรักกันมาก  ฐานะทางบ้านผู้หญิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เธอเป็นคนตั้งใจเรียนจึงทำให้สำเร็จการศึกษา

และเป็นพยาบาลสมใจ ระหว่างนั้นเธอก็คบหาดูใจกับพี่เบล และเข้าไปอยู่ในบ้านพี่เค้าในฐานะภรรยา


พ่อแม่พี่เบลก็ยอมรับเธอ เพื่อความเจริญในหน้าที่การงานจากพยาบาล พี่นิดจึงไปเรียนต่อเพื่อเป็นหัวหน้าตึกที่ วพบ.ราชรี

พี่เบลก็ไปส่งไปรับทุกวันหลังเลิกงานที่โรงพยาบาล แล้วก็ไปเรียนต่อจนจบแล้วได้เป็นหัวหน้าตึกตามตั้งใจ

พี่เบลเป็นผู้ชายไม่หล่อ แต่ดูอบอุ่น ด้วยที่พ่อเป็นทหารและมียศใหญ่จึงทำให้ดูภูมิฐาน

พี่นิดเป็นคนสวยผิวขาวหุ่นดี สมกับเป็นสาวชาวเน้อ

หลังจากนั้นไม่นาน พี่ทั้งสองก็มีลูกชื่อน้องนาย กับน้องคุณ เป็นผู้ชายทั้งคู่น่ารักมากเราเองก็เคยเล่นด้วย

คุณย่าแม่ของพี่เบลเห็นว่าที่อยู่เริ่มคับแคบแล้ว จึงไปซื้อบ้านอีกที่เพื่อให้ลูกชายลูกสะใภ้และหลานๆได้อยู่กันอย่างสบาย

มีที่วิ่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆกัน ด้วยความรักลูกหลานนั่นเอง

เมื่อย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ได้สองสามอาทิตย์ก็มีหนุ่มข้างบ้าน หล่อรวยเป็นนักธุรกิจและเป็นคนเหนือ

มาคุยกับพี่นิด พอแม่ของหนุ่มคนนั้นมาจากบ้านต่างจังหวัด เรียกพี่นิดเข้าไปคุยในบ้านเขาด้วย ซึ่งไม่รู้คุยอะไรกัน

ก็เริ่มมีอะไรเปลี่ยนไป จากที่พี่เบลจะไปทำงานกับพี่นิดด้วยกัน หนุ่มคนนั้นก็มารับพี่นิดที่หน้าบ้าน เลิกงานก็รับพี่นิดจากโรงพยาบาล

จากนั้นสองสามวันก็เก็บเสื้อผ้ากระเป๋าไปนอนกับผู้ชายคนนั้นซึ่งอยู่ข้างบ้านตัวเองอย่างไปรู้สึกอะไร

พอลูก น้องนาย อายุ 10 ขวบแล้ไม่เจอแม่ ก็ถามย่าว่าแม่ไปไหนไม่กลับบ้าน ย่าก็ตอบว่าแม่เข้าเวร

แม่กลับบ้านมาแล้วแต่ลูกหลับ ตอนเช้าก็ออกไปแล้วหนูตื่นไม่ทัน โดยไม่รู้เลยว่าแม่ไม่ได้กลับบ้านเพราะอยู่ข้างบ้านนี่เอง

ส่วนพี่เบลเองก็เสียใจมาก เพราะอยู่ข้างบ้านต้องเห็นอะไรตำตาตำใจที่เมียตัวเองไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น

โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกับพี่เบลเลย แถมทำงานก็ทำที่เดียวกันอีก ต้องเห็นเค้ามารับเมียตัวเองต่อหน้าต่อตา

ทุกวันนี้หลังจากเลิกงานที่โรงพยาบาลแล้ว  พี่เบลจะมาขับวินมอเตอร์ไซค์แถวหน้าปากซอยบ้านเดิม

คงจะไม่อยากอยู่บ้านที่ให้เจ็บปวดหัวใจและไม่รู้จะตอบคำถามลูกอย่างไรดี

พี่เบลพูดแม่ของเค้าว่า "เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านหลังเก่ามีความสุขมากเพราะได้พานิดพาลูกไปเที่ยวกันทุกอาทิตย์

ย้ายมาที่นี่แม่บ้านจะใหญ่พื้นที่จะมากแต่มันไม่มีความสุขเลย ไม่คิดว่านิดจะทำแบบนี้กับเค้าได้"


ฉันเองก็ไม่เข้าใจพี่นิดเหมือนกัน แสดงว่าที่ผ่านมาไม่เคยรักพี่เบลเลยใช่ไหมอยู่กับเค้าก็หวังแต่ประโยชน์จากเค้าใช่ไหม

จิตใจทำด้วยอะไรกัน  ไม่อายชาวบ้านหรือคนอื่นบ้างเลยหรอ ไม่รักลูกเลยหรือไงแล้วถ้าลูกน้องที่อยู่ใต้บังคับบัญชา


ที่โรงพยาบาลรู้ไม่กลัวจะเป็นขี้ปากหรอ เราเองก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรในเรื่องนี้

แต่สงสารเด็กน้อยที่แม่ตัวเองมาทิ้งไปอย่างนี้ สงสารพี่เบลที่โดนทำร้ายความรักอย่างไม่มีเยื่อใย


>>>>>  จากชีวิตคู่ที่มีความสุข อยู่ดีๆก็เกิดเรื่องแบบนี้ ใครจะรับได้บ้าง ชีวิตคนเราอะไรๆก็ไม่แน่นอนจริงๆ

"รักแล้วอย่าวางใจ เผื่อเจ็บไว้บ้างก็ดี"









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

make-money-468x60