หลังจากกลับบ้านก็ได้พูดคุยกับแม่ตามภาษาแม่ลูกกันปกติ สักครู่ก็มีพี่ข้างบ้านแบ่งกับข้าวมาให้ที่บ้าน
แล้วก็พูดคุยกันสักพัก จนไปถึง "เรื่องเศร้าเรื่องหนึ่งที่ฉันฟังแล้วไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย มันเศร้าเกินกว่าจะทำใจ"
เรื่องมีอยู่ว่า >>>>> มีครอบครัวหนึ่ง มีปู่ย่า ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชายสองคน (ลูกของลูกชาย+ลูกสะใภ้)
ครอบครัวนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับฉัน เป็นบ้านทาวน์เฮ้าสองชั้นหรือสามชั้นจำไม่ได้ ห่างกันประมาณร้อยเมตรเท่านั้น
คุณปู่เป็นทหารยศใหญ่เหมือนกัน ส่วนคุณย่าเป็นแม่บ้านรับจ้างซักผ้า ลูกชายเป็นบุรุษพยาบาล และลูกสะใภ้เป็นพยาบาล
ประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง (บ้านเกิดฉันเอง)
ฉันขอตั้งชื่อให้กับลูกชายว่า >>> เบล ฉันเรียกเค้าว่าพี่เบล
และก็ลูกสะใภ้ว่า >>> นิด แต่ฉันขอเรียกว่าพี่นิดแล้วกันติดปากมาแต่เด็ก
สองคนนี้ดูจากภายนอกรักกันมาก ฐานะทางบ้านผู้หญิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่เธอเป็นคนตั้งใจเรียนจึงทำให้สำเร็จการศึกษา
และเป็นพยาบาลสมใจ ระหว่างนั้นเธอก็คบหาดูใจกับพี่เบล และเข้าไปอยู่ในบ้านพี่เค้าในฐานะภรรยา
พ่อแม่พี่เบลก็ยอมรับเธอ เพื่อความเจริญในหน้าที่การงานจากพยาบาล พี่นิดจึงไปเรียนต่อเพื่อเป็นหัวหน้าตึกที่ วพบ.ราชรี
พี่เบลก็ไปส่งไปรับทุกวันหลังเลิกงานที่โรงพยาบาล แล้วก็ไปเรียนต่อจนจบแล้วได้เป็นหัวหน้าตึกตามตั้งใจ
พี่เบลเป็นผู้ชายไม่หล่อ แต่ดูอบอุ่น ด้วยที่พ่อเป็นทหารและมียศใหญ่จึงทำให้ดูภูมิฐาน
พี่นิดเป็นคนสวยผิวขาวหุ่นดี สมกับเป็นสาวชาวเน้อ
หลังจากนั้นไม่นาน พี่ทั้งสองก็มีลูกชื่อน้องนาย กับน้องคุณ เป็นผู้ชายทั้งคู่น่ารักมากเราเองก็เคยเล่นด้วย
คุณย่าแม่ของพี่เบลเห็นว่าที่อยู่เริ่มคับแคบแล้ว จึงไปซื้อบ้านอีกที่เพื่อให้ลูกชายลูกสะใภ้และหลานๆได้อยู่กันอย่างสบาย
มีที่วิ่งเล่น ทำกิจกรรมต่างๆกัน ด้วยความรักลูกหลานนั่นเอง
เมื่อย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ได้สองสามอาทิตย์ก็มีหนุ่มข้างบ้าน หล่อรวยเป็นนักธุรกิจและเป็นคนเหนือ
มาคุยกับพี่นิด พอแม่ของหนุ่มคนนั้นมาจากบ้านต่างจังหวัด เรียกพี่นิดเข้าไปคุยในบ้านเขาด้วย ซึ่งไม่รู้คุยอะไรกัน
ก็เริ่มมีอะไรเปลี่ยนไป จากที่พี่เบลจะไปทำงานกับพี่นิดด้วยกัน หนุ่มคนนั้นก็มารับพี่นิดที่หน้าบ้าน เลิกงานก็รับพี่นิดจากโรงพยาบาล
จากนั้นสองสามวันก็เก็บเสื้อผ้ากระเป๋าไปนอนกับผู้ชายคนนั้นซึ่งอยู่ข้างบ้านตัวเองอย่างไปรู้สึกอะไร
พอลูก น้องนาย อายุ 10 ขวบแล้ไม่เจอแม่ ก็ถามย่าว่าแม่ไปไหนไม่กลับบ้าน ย่าก็ตอบว่าแม่เข้าเวร
แม่กลับบ้านมาแล้วแต่ลูกหลับ ตอนเช้าก็ออกไปแล้วหนูตื่นไม่ทัน โดยไม่รู้เลยว่าแม่ไม่ได้กลับบ้านเพราะอยู่ข้างบ้านนี่เอง
ส่วนพี่เบลเองก็เสียใจมาก เพราะอยู่ข้างบ้านต้องเห็นอะไรตำตาตำใจที่เมียตัวเองไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น
โดยไม่ได้พูดคุยอะไรกับพี่เบลเลย แถมทำงานก็ทำที่เดียวกันอีก ต้องเห็นเค้ามารับเมียตัวเองต่อหน้าต่อตา
ทุกวันนี้หลังจากเลิกงานที่โรงพยาบาลแล้ว พี่เบลจะมาขับวินมอเตอร์ไซค์แถวหน้าปากซอยบ้านเดิม
คงจะไม่อยากอยู่บ้านที่ให้เจ็บปวดหัวใจและไม่รู้จะตอบคำถามลูกอย่างไรดี
พี่เบลพูดแม่ของเค้าว่า "เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านหลังเก่ามีความสุขมากเพราะได้พานิดพาลูกไปเที่ยวกันทุกอาทิตย์
ย้ายมาที่นี่แม่บ้านจะใหญ่พื้นที่จะมากแต่มันไม่มีความสุขเลย ไม่คิดว่านิดจะทำแบบนี้กับเค้าได้"
ฉันเองก็ไม่เข้าใจพี่นิดเหมือนกัน แสดงว่าที่ผ่านมาไม่เคยรักพี่เบลเลยใช่ไหมอยู่กับเค้าก็หวังแต่ประโยชน์จากเค้าใช่ไหม
จิตใจทำด้วยอะไรกัน ไม่อายชาวบ้านหรือคนอื่นบ้างเลยหรอ ไม่รักลูกเลยหรือไงแล้วถ้าลูกน้องที่อยู่ใต้บังคับบัญชา
ที่โรงพยาบาลรู้ไม่กลัวจะเป็นขี้ปากหรอ เราเองก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรในเรื่องนี้
แต่สงสารเด็กน้อยที่แม่ตัวเองมาทิ้งไปอย่างนี้ สงสารพี่เบลที่โดนทำร้ายความรักอย่างไม่มีเยื่อใย
>>>>> จากชีวิตคู่ที่มีความสุข อยู่ดีๆก็เกิดเรื่องแบบนี้ ใครจะรับได้บ้าง ชีวิตคนเราอะไรๆก็ไม่แน่นอนจริงๆ
"รักแล้วอย่าวางใจ เผื่อเจ็บไว้บ้างก็ดี"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น